วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อุดรฯ เจ้าภาพประชุมหอการค้า รปภ. เข้ม หลังก่อการร้ายปารีส




          เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง คุมเข้มเมืองอุดรธานี ในฐานะเจ้าภาพจัดประชุมหอการค้าทั่วประเทศ หลังนายกรัฐมนตรี สั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเมืองท่องเที่ยว จากเหตุระเบิด และกราดยิงที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
          เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 14 พ.ย.58 ที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ปล่อยแถวป้องกันเหตุอาชญากรรม ผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ โดยมีตำรวจป้องกันปราบปราม ตำรวจสืบสวน หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD ทหารบกค่ายประจักษ์ศิลปาคม ทหารอากาศกองบิน 23
          หลังจากช่วงเช้ามืดวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย เกิดเหตุสะเทือนขวัญ มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายโจมตีกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อย่างน้อย 7 จุด ทั้งกราดยิงผู้เข้าชมวงดนตรีในโรงละครบาตากล็อง วางระเบิดในสนามฟุตบอล สต๊าด เดอ ฟร็องซ์ ขณะมีการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร ระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสกับเยอรมนี มีการจับประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นตัวประกันกว่า 100 คน และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 153 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องในกรุงปารีส สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้แล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายกลุ่มใด 
พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี และ พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากผู้ก่อการร้ายก่อเหตุสะเทือนขวัญ บุกกราดยิง วางระเบิดในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส อย่างไม่มีมนุษยธรรม ไม่แคร์ความรู้สึกและสายตาของชาวโลกแม้แต่น้อยนิด ทำให้ต้องสูญเสียชีวิตผู้คนจำนวนมาก ซึ่งทางรัฐบาลได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในประเทศ และนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย อาจมีผู้ก่อการร้าย หรือผู้ไม่หวังดีแอบแฝงเข้ามาก่อเหตุสะเทือนขวัญ อย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วที่แยกราชประสงค์ กทม.
ดังนั้น รัฐบาลจึงได้มีคำสั่งเร่งด่วนไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ ให้ทุกๆ ภาคส่วนร่วมป้องกันสอดส่องดูแลพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ และในวันที่ 27-28 พฤศจิกายน จ.อุดรธานี เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ซึ่งตำรวจและทหารที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ถึงความมั่นคงของประเทศชาติ ร่วมกันออกตรวจตราตามแหล่งที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ห้างสรรพสินค้า จุดเสี่ยง จุดล่อแหลม สนามบิน สถานีขนส่งต่างๆ เป็นต้น โดยให้สังเกต คนแปลกหน้า รถแปลกถิ่น ของแปลกที่ รวมถึงฝ่ายพลเรือนที่ต้องขอประชาสัมพันธ์ให้ช่วยกันสังเกตสิ่งที่กล่าวมา 3 ข้อนี้ด้วย และอย่ากระทำการใดๆ โดยประมาทอย่างเด็ดขาด หากพบความผิดปกติ ให้รีบโทรแจ้ง 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ

Cr. www.thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น